ThaiPropertyToday

แสนสิริเปิดตัว “Habito” คอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่

แสนสิริเปิดตัว “Habito” คอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่
Decrease Font Size Increase Font Size Text Size Print This Page

เพื่อการใช้ชีวิตที่ดีตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

 

แสนสิริรุกแตกไลน์ธุรกิจคอมมูนิตี้ รีเทล ภายใต้ชื่อ “ฮาบิโตะ (Habito)” เชื่อช่วยเสริมให้ “ที77” โซนที่อยู่อาศัยของแสนสิริทำเลสุขุมวิท 77 เป็นศูนย์กลางการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิตที่ดีใจกลางกรุง  พร้อมดึงครีเอทีฟเอเจนซี่ระดับโลก  “วิงค์ครีเอทีฟ” มาร่วมสร้างนิยามการอยู่อาศัยที่พรั่งพร้อมด้วยไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ชูไฮไลท์คอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่ที่ มอบการใช้ชีวิตที่ดีตั้งแต่เช้าจรดค่ำ

HABITO_1 HABITO_2 HABITO_3 Habito-1 Habito-2 Tyler_06_2005 001 คุณอภิชาติ จูตระกูล คุณอุทัย อุทัยแสงสุข

คุณอภิชาติ จูตระกูล ประธานอำนวยการ บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริเปิดตัวธุรกิจคอมมูนิตี้ รีเทล เป็นอีกหนึ่งธุรกิจใหม่ต่อเนื่องจากการเปิดตัวธุรกิจโรงแรมเมื่อปีที่ผ่านมา เพราะเรามองว่าจะช่วยส่งเสริมธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของแสนสิริได้เป็นอย่างดี ด้วยงบประมาณการลงทุนประมาณ 320 ล้านบาทจะทำให้แสนสิริมีรายได้เพิ่มขึ้นจากค่าเช่าพื้นที่ใน           คอมมูนิตี้ มอลล์ที่คิดอัตรา 750 – 1,500 บาท ต่อ ตร.ม. ประมาณ 40  ล้านบาทต่อปี เมื่อเทียบกับรายได้รวมของบริษัทแล้วถือว่าน้อยกว่า 0.15% แต่สิ่งที่เราได้กลับมามีมูลค่ามากกว่านั้นเพราะถือเป็นการส่งมอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีแก่ครอบครัวแสนสิริด้วยการเพิ่มสิ่งความสะดวกให้ผู้อยู่อาศัยในโครงการของแสนสิริทำเลสุขุมวิท 77  ตลอดจนเป็นการเพิ่มความน่าสนใจในการซื้อและลงทุนในโครงการของแสนสิริ อันจะนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าของที่ดินในโซนนั้นในอนาคต

 

“กรุงเทพฯ ในปัจจุบันเริ่มจะมีลักษณะคล้ายเมืองใหญ่ทั่วโลก คือ แบ่งเป็นโซนที่อยู่อาศัยย่อยๆ ในเมืองใหญ่อีกที เช่น โซนสีลม โซนรามคำแหง โซนลาดพร้าว โซนปิ่นเกล้า และโซนอ่อนนุช เป็นต้น ความเจริญไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เพลินจิตหรือปทุมวันเหมือนในอดีต แต่กระจายตัวบริเวณชุมชนรอบกรุงเทพฯ หรือเกาะตามสถานีรถไฟฟ้า ดังนั้น การเลือกย่านที่อยู่อาศัย ที่ถูกต้องจึงเป็นสิ่งที่สำคัญทั้งในด้านการใช้ชีวิตและในด้านการลงทุน”

 

“ทำเลอ่อนนุชหรือสุขุมวิท 77 เป็นทำเลศักยภาพที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากเดินทางสะดวกด้วยถนนสุขุมวิท รถไฟฟ้าและทางด่วน รวมทั้งตั้งอยู่ในทำเลที่พักอาศัยที่แวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก เดินทางเข้าเมืองสู่ย่านธุรกิจได้ง่าย แต่ก็ยังมอบบรรยากาศเงียบสงบและร่มรื่นด้วยคลองธรรมชาติที่ทอดตัวผ่านพื้นที่สีเขียว ทำให้ทำเลนี้ได้รับความสนใจจากคนรุ่นใหม่เป็นอย่างมาก สังเกตได้จากยอดขายของโครงการของแสนสิริในโซนนี้ที่มีมูลค่าแตะ 6,800 ล้านบาทแล้วจากการขาย 5 โครงการ คือ บล๊อก สุขุมวิท 77, เดอะ เบส สุขุมวิท 77, เดอะ เบส พาร์คอีสต์ สุขุมวิท 77, เดอะ เบส พาร์คเวสต์ สุขุมวิท 77 และการ์เด้น สแควร์ สุขุมวิท 77 ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ระดับบนราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป นอกจากนั้น แสนสิริยังวางแผนที่จะเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise 7 ชั้นภายใต้ชื่อ ‘hasu HAUS’ อย่างเป็นทางการในช่วงกลางเดือนตุลาคมนี้ ซึ่งเมื่อรวมทุกโครงการของแสนสิริแล้ว จะทำให้ทำเลนี้มีมูลค่าที่อยู่อาศัยถึง 8,700 ล้านบาทและจะทำให้มีผู้อยู่อาศัยถึง 5,000 ครอบครัว”

 

คุณอภิชาติ กล่าวต่อว่า แสนสิริเชื่อมั่นว่าทำเลสุขุมวิท 77 โซนใกล้รถไฟฟ้าจะได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นและเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในกรุงเทพฯได้ในอนาคต ดังนั้น แสนสิริจึงมีแผนที่จะพัฒนาทำเลสุขุมวิท 77 ให้เป็นฮับแห่งการอยู่อาศัยที่เปี่ยมด้วยไลฟ์สไตล์แห่งการใช้ชีวิตภายใต้ชื่อ “ที 77 (T77)”  โดยบริษัทจะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในพื้นที่นี้เพิ่มเติม รวมทั้งนำเสนอรูปแบบการใช้ชีวิตที่เจาะกลุ่มชาวไทยและชาวต่างชาติที่ต้องการเสพสุนทรียะแห่งการอยู่อาศัยอย่างต่อเนื่องในอนาคต

 

ด้าน คุณอุทัย อุทัยแสงสุข รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายงานพัฒนาธุรกิจและพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียม บริษัท แสนสิริ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า แสนสิริได้จับมือกับ “วิงค์ครีเอทีฟ (Winkreative)” แบรนด์ดิ้งและดีไซน์เอเจนซี่ที่เป็นที่รู้จักในระดับสากลซึ่งเป็นบริษัทในเครือเดียวกับนิตยสาร “โมโนเคิล (Monocle)” สื่อที่ได้รับการยอมรับระดับโลก  โดยวิงค์ครีเอทีฟได้มีส่วนร่วมในการ หาคอนเซ็ปต์และพัฒนาฮาบิโตะให้เป็นคอมมูนิตี้ รีเทล ที่มีรูปแบบที่แตกต่างและเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด โดยใช้เวลากว่า 2 ปีในการทำวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภค วิเคราะห์คู่แข่ง โอกาสทางธุรกิจ รวมทั้งมีการศึกษาดูงานคอมมูนิตี้ รีเทล ชื่อดังในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นกว่า 10 แห่ง จนได้คอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่ที่มอบไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ดีตั้งแต่เช้าจรดเย็นแก่คนรุ่นใหม่ภายใต้สโลแกน Habito: The Heart of Good Living”

 

“การมีบริษัทครีเอทีฟระดับโลกอย่างวิงค์ครีเอทีฟ (Winkreative) มาเป็นผู้ร่วมรังสรรค์คอมมูนิตี้       รีเทล แห่งแรกของแสนสิริ ทำให้เราเชื่อมั่นว่าฮาบิโตะจะเป็นอีกหนึ่งปรากฎการณ์แห่งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ เพราะแสนสิริให้ความสำคัญอย่างยิ่งในการคัดสรรร้านค้าที่มาเปิดเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการในการใช้ชีวิตที่ดีตั้งแต่เช้าจรดค่ำ นอกจากนั้น การมี Co-working space เป็นผู้เช่าหลักในพื้นที่ทำให้แสนสิริเชื่อว่าฮาบิโตะจะสร้างความแปลกใหม่และแตกต่างจากคอมมูนิตี้ รีเทล มอลล์แห่งอื่นๆ เพราะจะนำไปสู่การมีผู้ใช้บริการเข้ามาใช้พื้นที่ต่อเนื่องตลอดวันไม่เฉพาะแค่ช่วงเที่ยงหรือช่วงเย็น ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดหลักของฮาบิโตะในการเป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิตที่ดีตั้งแต่เช้าจรดค่ำ” คุณอุทัย กล่าว

 

“ฮาบิโตะ (Habito)” เป็นคอมมูนิตี้ รีเทล ขนาด 10,000 ตร.ม. ตั้งอยู่บนพื้นที่ 4 ไร่ของที77 (T77) ประกอบด้วยร้านค้าจำนวน 32 ร้าน โดยมีขนาดร้านค้าตั้งแต่ 35 ตร.ม. จนถึง 700 ตร.ม. เพื่อให้เหมาะสมกับประเภทธุรกิจทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ เสริมความงาม ร้านขายยา co-working space เป็นต้น จุดเด่นของฮาบิโตะ คือ สถานที่ที่ผู้อาศัยในที77 และชุมชนใกล้เคียงสามารถใช้เวลาได้ตั้งแต่เช้าจรดเย็นเพราะมีสิ่งอำนวยความสะดวกเหมาะกับแต่ละช่วงเวลาและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้บริการอย่างครบครัน ตลอดจนยังเป็นศูนย์กลางด้านไลฟ์สไตล์ของครอบครัวแสนสิริในที77 เพื่อให้เกิดเป็นอีกชุมชนเล็กๆที่อบอุ่นและแวดล้อมไปด้วยธรรมชาติท่ามกลางความวุ่นวายของเมืองใหญ่

 

ฮาบิโตะจะเริ่มก่อสร้างในเดือน กันยายน 2557 และแล้วเสร็จพร้อมเปิดตัวอย่างเป็นทางการในเดือน พฤศจิกายน  2558 ผู้สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของร้านค้าในคอมมูนิตี้ รีเทล แนวคิดใหม่และมีศักยภาพในการเติบโตแห่งนี้ สามารถสัมผัสแนวคิดโครงการได้ในงานแสนสิริ ไลฟ์คัมส์โฮม (Sansiri Life Comes Home) ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 สยามพารากอน ระหว่างวันที่ 10 – 12 ตุลาคม 2557 หรือ สามารถติดต่อขอเช่าพื้นที่โดยตรงได้ที่ โทร. 02-257-0499