7 ปี พลิกโฉมกรุงเทพ กับ “6 Mega Project” ด้วยเงินลงทุนกว่า 300,000 ลบ. ของภาคเอกชน
จากบทความ Mega Project ของทาง TerraBKK Research ที่ได้อัพเดทสถานการณ์อสังหาริมทรัพย์ภายในกรุงเทพมหานครทุกหัวมุมเมืองของกรุงเทพมานคร ทั้งทางฝั่งตะวันออก ฝั่งเหนือ และฝั่งตะวันตก และใจกลางกรุงเทพมหานคร ต่างเป็นโครงการขนาดใหญ่มูลค่าหลายพันล้าน ที่พร้อมเปิดตัว และมีแผนที่จะเปิดตัวในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เพื่อรองรับการขยายตัวของเมือง และปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรม และรายได้ของผู้บริโภคมากขึ้น ถ้าเรานำโครงการ Mega Project แต่ละโครงการในกรุงเทพมหานคร มารวมเข้าด้วยกัน จะเห็นถึงแนวโน้มการขยายตัวของเมืองโดยเมืองในปัจจุบัน ไม่ได้กระจุกตัวอยู่เพียงกรุงเทพมหานครเพียงอย่างเดียวเหมือนอย่างในอดีต ที่ใครจะมา Shopping ทำงาน หรือมาพบปะสังสรรค์ ต้องมาสยาม มาบุญครอง มา World trade เท่านั้น
แต่จากปัจจุบันการพัฒนาของการคมนาคมรถไฟฟ้า ทางด่วน ถนนขนาดใหญ่หลายสิบเลนส์ ได้เข้าถึงประชาชนมากขึ้น ทำให้การเดินทางเป็นไปได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ส่งผลให้ความเจริญต่างเริ่มแผ่ออกรอบนอกมากขึ้น ใช้เวลาในการเดินทางระหว่างเมืองลดลง และอีกปัจจัยหนึ่งที่สำคัญ ที่ทำให้การขยายตัวออกไปยังหัวเมืองของกรุงเทพมหานครมากขึ้น คือการเปิด AEC ซึ่งเป็นการอำนวยความสะดวก ให้เกิดการลงทุนให้กับต่างประเทศเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น ทำให้ผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวปรับกลยุทธ์ เพื่อป้องกันคู่แข่ง (Barrier to Entry) ที่จะเข้ามาลงทุนแข่งขัน ทั้งจากในประเทศ และต่างประเทศ หลังเปิด AEC ในช่วงปลายปี 2558 ด้วยการเข้ายึด และช่วงชิงทำเล ที่ถือว่าเป็นสุดยอดของแต่ละหัวเมืองต่างๆ
Mega Project ของเหล่านักพัฒนาเริ่มเริ่มขยับขยายออกมานอกเมืองมากขึ้น ไม่ใช่การสร้างศูนย์การค้าขาดเล็กๆ ไม่กี่สิบไร่เหมือนในอดีต แต่เป็นการพัฒนาศูนย์การค้าขนาดใหญ่ระดับ “Superregional center” โดยศักยภาพของ Superregional Center คือ สามารถดึงดูด traffic ได้ถึงประมาณ 40 กิโลเมตร(ตามนิยามของ Wikipedia) สามารถดูดซับอุปสงค์ (ความต้องการของผู้บริโภค) จากจังหวัดรอบนอกกรุงเทพมหานครได้
และผลพวงของศูนย์การค้าขนาดใหญ่เหล่านั้น จะเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างเมืองแห่งใหม่ให้ขยายออกไปด้านนอกมายิ่งขึ้นไม่ได้กระจุกตัวอยู่แต่ภายในเมืองอย่างในอดีตที่กล่าวมา
อย่างไรก็ตาม จากภาพรวม Mega Project หลายๆ โครงการที่ทาง TerraBKK Researchได้นำเสนอด้วยมูลค่ารวมเงินลงทุนของภาคเอกชนกว่า 300,000 ล้านบาท เนื้อที่กว่า 6.1 ล้านตารางเมตร ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงการเป็นศูนย์กลางการเงิน การลงทุน และความเป็นที่ 1 ของกรุงเทพมหานครกับการเป็นเมืองหลวงของประเทศไทย
และแนวโน้มการขยายตัวเพื่อรองรับการเปิดประชาคมอาเซียนที่ คาดว่า จะมีการลงทุนภายในประเทศมากขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา จะเป็นตัวพลิกโฉมกรุงเทพในอีก 7 ปีข้างหน้าให้มีความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นมากน้อยเพียงใดต้องติดตามสถานการณ์กันต่อไป
