ThaiPropertyToday

วี.เอ็ม.พี.ซี. ปลื้มปิดฉากไตรมาส 3 ด้วยอัตราเติบโตกว่า 100 % คาดปิดฉากปี 56 กวาดยอดกว่า 250 ลบ.

วี.เอ็ม.พี.ซี. ปลื้มปิดฉากไตรมาส 3 ด้วยอัตราเติบโตกว่า 100 % คาดปิดฉากปี 56 กวาดยอดกว่า 250 ลบ.
Decrease Font Size Increase Font Size Text Size Print This Page

 

แม้จะก้าวสู่ธุรกิจอสังหาฯ เมืองไทยแบบเต็มตัวเพียง  2 ปี แต่ล่าสุด วี.เอ็ม.พี.ซี. ก็เผยผล การดำเนินธุรกิจตลอด  3 ไตรมาสแรกทั้งธุรกิจในกลุ่มเช่าและพัฒนาโครงการ ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้น สูงถึง 20% พร้อมประกาศเดินหน้าพัฒนาโครงการใหม่แบบเต็มสูบ หวังเปิดขายอย่างเป็นทางการ รับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง

 

นายปริญญา เธียรวร ประธานกรรมการ บริษัท วี.เอ็ม.พี.ซี. จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทฯ ได้ก้าวสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มตัวเป็นระยะเวลากว่า 2 ปี ถือได้ว่ามีอัตราการเติบโตเป็นที่น่าพอใจ โดย วี.เอ็ม.พี.ซี. ได้ดำเนินธุรกิจทั้งในส่วนธุรกิจเช่าและพัฒนาโครงการเพื่อการขาย โดยในกลุ่มธุรกิจเช่านั้น ปัจจุบันมีอยู่ 4 โครงการ ทั้งธุรกิจโรงแรม, เซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ และอพาร์ทเมนต์ ประกอบด้วย 1.โรงแรมแอสเทรา สาทร 2.เซอร์วิสอพาร์ทเมนต์สาทร แกลเลอรี่ 3.อพาร์ทเมนต์บ้านสวนราม 4.ภูหลวงอพาร์ทเมนต์ รวมมูลค่ากว่า 1,870 ล้านบาท ซึ่งภาพรวมของธุรกิจเช่าถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดี โดยปิดไตรมาสที่ 3 ของปีนี้มีรายรับอยู่ที่ 65 ล้านบาท ซึ่งมีรายได้เพิ่มขึ้นกว่า 20% เมื่อเทียบกับ ไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา และคาดว่าเมื่อครบ 4 ไตรมาสบริษัทฯ จะสามารถรับรู้รายได้ ประมาณ 95 ล้าน

 

“ปัจจุบันธุรกิจโรงแรมของเรามียอดเข้าพักเฉลี่ยอยู่ที่  85% ตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา สอดคล้องกับปริมาณ นักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นเฉลี่ยทุกไตรมาสอยู่ที่ 17% ในขณะที่ธุรกิจเซอร์วิส อพาร์ทเมนต์ มียอดเข้าพัก 95% และเต็มต่อเนื่องถึงปี 2558 เนื่องจากนโยบายในการพัฒนาโครงการระดับเมกกะโปรเจคที่เอื้อต่อนักลงทุน ต่างชาติ จึงสามารถดึงกลุ่มทุนดังกล่าวให้กลับเข้ามาลงทุนได้ ซึ่งถือเป็นลูกค้ากลุ่มหลักของบริษัทฯ และในส่วนธุรกิจอพาร์ทเมนต์ จำนวนห้องเช่าที่ปล่อยเช่าได้ยังคงรักษาสถานะดังเดิมไม่มีลดลง แม้จะมีนโยบาย บ้านหลังแรกหรือสินค้าทดแทนเช่นคอนโดมิเนียมราคาล้านต้นๆ ที่เพิ่มมากขึ้นในตลาดก็ตาม แต่เนื่องจาก นโยบายรถคันแรกทำให้ผู้เช่าเลือกซื้อรถก่อนคอนโดมิเนียมยอดของจำนวนการเช่าจึงไม่ได้ลดลงแต่อย่างไร” นายปริญญา เธียรวร กล่าว

 

ทั้งนี้ ในส่วนธุรกิจพัฒนาโครงการนั้น นายปริญญา กล่าวเพิ่มเติมในส่วนดังกล่าวว่า “ภายในสิ้นปีนี้ วี.เอ็ม.พี.ซี. จะสามารถรับรู้รายได้อยู่ที่ประมาณ 155 ล้านจากธุรกิจพัฒนาโครงการ ซึ่งรายได้ดังกล่าวมาจาก การโอนกรรมสิทธิ์ฯ โครงการแอสเทรา เรสซิเด้นซ์ พระราม 2-พุทธบูชา ที่ปิดการขายไปเมื่อเดือนกันยายน ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ วางแผนเร่งเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวแห่งใหม่มูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาทให้เร็วขึ้น เพื่อสอดรับกับกำลังซื้อ ณ ปัจจุบัน ซึ่งคาดว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในต้นปี 2557”