ThaiPropertyToday

ไทคอนพอใจผลงานครึ่งปีแรก มั่นใจสิ้นปีโต 30% ตามเป้า เดินหน้าขยายพื้นที่ให้เช่าเพิ่มอีกเกือบ 400,000 ตรม. ภายในสิ้นปีนี้ พร้อมลงทุนซื้อที่ดินสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มต่อเนื่องด้วยงบรวม 12,000 ล้านบาท

ไทคอนพอใจผลงานครึ่งปีแรก มั่นใจสิ้นปีโต 30% ตามเป้า เดินหน้าขยายพื้นที่ให้เช่าเพิ่มอีกเกือบ 400,000 ตรม. ภายในสิ้นปีนี้  พร้อมลงทุนซื้อที่ดินสร้างโรงงานและคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มต่อเนื่องด้วยงบรวม 12,000 ล้านบาท
Decrease Font Size Increase Font Size Text Size Print This Page

ไทคอน หรือ บริษัท ไทคอนอินดัสเทรียล คอนเนคชั่น จำกัด (มหาชน) ประกาศผลประกอบการครึ่งปีแรก 2556 เป็นไปตามเป้า โดยมีกำไรสุทธิรวม 421 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้าร้อยละ 32 โดยรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าให้เช่า

 

นายวีรพันธ์ พูลเกษ กรรมการผู้จัดการ ของ ไทคอนเปิดเผยว่า “บริษัทฯพอใจกับผลประกอบการในรอบครึ่งปีแรก ซึ่งเป็นไปตามแผนที่คาดการณ์ไว้ โดยบริษัทฯมีรายได้หลักจากการให้เช่าพื้นที่ทั้งโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้ารวม 558 ล้านบาท ในจำนวนนี้ร้อยละ 55 เป็นรายได้จากการให้เช่าโรงงานสำเร็จรูปของไทคอน ส่วนที่เหลืออีกร้อยละ 45 มาจากการให้เช่าคลังสินค้าของ TPARK ซึ่งเป็นบริษัทลูกของไทคอน นอกจากนี้ บริษัทฯยังมีรายได้ส่วนอื่นจากการที่บริษัทมีการลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ไทคอน หรือ TFUND และ กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ทีพาร์คโลจิสติคส์ หรือ TLOGIS ซึ่งไทคอนถือหุ้นอยู่ประมาณร้อยละ 20 ในแต่ละกองทุน ทำให้ ณ สิ้นสุดไตรมาสสองของปีนี้ ไทคอนมีกำไรสุทธิรวม 421 ล้านบาท

 

ในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมายังคงมีการลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาอย่างต่อเนื่อง  บริษัทฯมีลูกค้าทั้งในส่วนของโรงงานสำเร็จรูปและคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นรวม 41 ราย ทำให้ลูกค้าทั้งหมดของไทคอนและTPARKณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 500 ราย ในจำนวนนี้เป็นบริษัทต่างชาติมากกว่าร้อยละ 90 และประมาณร้อยละ 50 มาจากประเทศญี่ปุ่น ทั้งนี้ส่วนใหญ่ของลูกค้าอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อิเลคทรอนิคส์ และโมเดิร์นเทรดโดยเฉพาะสินค้าอุปโภคบริโภคมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในอนาคต”

 

“ณ สิ้นเดือนกรกฎาคม 2556 ไทคอน และ TPARK มีพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าใหม่เพิ่มขึ้นรวม 254,981 ตารางเมตร  ดังนั้นบริษัทจึงมั่นใจว่าจะสามารถขยายพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าให้เช่าใหม่เพิ่มขึ้นรวมเป็น 400,000 ตารางเมตร ภายในสิ้นปี 2556 หรือเพิ่มขึ้นอีก ร้อยละ 30 จากพื้นที่ให้เช่ารวม ณ สิ้นปี 2555  ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

 

สำหรับแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลังของปี 2556 จะเห็นการเติบโตของธุรกิจคลังสินค้าให้เช่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่แถบบางนาตราด บางพลี และตามแนวชายแดน ซึ่งเป็นผลมาจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และ

 

 

การเตรียมรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นเมื่อข้อตกลงทางการค้าของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC เริ่มมีผลบังคับใช้ในปี 2558 ซึ่งในส่วนนี้ บริษัทฯได้เตรียมขยายงานเพื่อรองรับไว้แล้ว โดยได้กันงบประมาณ 12,000 ล้านบาท เพื่อซื้อที่ดินพร้อมสร้างโรงงานสำเร็จรูปรวมทั้งคลังสินค้าให้เช่า ทั้งนี้ในรอบครึ่งปีแรก ทั้งไทคอนและ TPARK ได้ใช้งบประมาณในการซื้อที่ดินไปแล้วรวม6,000 ล้านบาท คิดเป็นพื้นที่รวมกว่า 1,200 ไร่ ซึ่งอยู่ในย่านอุตสาหกรรมภาคตะวันออก และตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” นายวีรพันธ์กล่าว

 

เมื่อเร็วๆนี้ ไทคอนได้เซ็นสัญญาซื้อที่ดินเพิ่มในอมตะนคร และอมตะซิตี้ อีก 226 ไร่ และ เมื่อต้นปี  TPARK ได้ซื้อที่ดินที่จังหวัดขอนแก่น 200 กว่าไร่  รวมทั้งซื้อที่ในโครงการบางกอกฟรีเทรดโซน อีก 180 ไร่ เพื่อพัฒนาโครงการ ‘TPARK บางพลี 2’ เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาหลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดียิ่งจากโครงการ “TPARK บางพลี 1” ทำให้TPARK เป็นผู้พัฒนาโลจิสติกส์พาร์คและคลังสินค้าให้เช่าที่มีทีดินพร้อมใช้มากที่สุดในย่านบางพลี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ความต้องการด้านคลังสินค้ามีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว

 

“ปัจจุบันกลุ่มไทคอนมีที่ดินพร้อมใช้ที่พัฒนาแล้ว และที่อยู่ระหว่างการพัฒนารวมทั้งสิ้น 7,268 ไร่ ในจำนวนนี้ร้อยละ 36 เป็นที่ดินที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ บมจ ไทคอน อินดัสเทรียล คอนเนคชั่น และร้อยละ 64 อยู่ภายใต้ TPARK หรือ บริษัท ไทคอน โลจิสติคส์ พาร์ค จำกัด ไทคอนมีพื้นที่โรงงานสำเร็จรูปให้เช่ารวมทั้งสิ้น 990,990 ตารางเมตร  อยู่ใน 15 โครงการ ขณะที่ TPARK มีพื้นที่คลังสินค้าให้เช่ารวม 705,556 ตารางเมตร อยู่ใน 27 โครงการ กระจายอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์หลักๆของประเทศ

 

ในครึ่งหลังของปีนี้ กลุ่มบริษัท ไทคอน จะยังคงเดินหน้าซื้อที่ดินเพิ่ม ในทำเลสำคัญๆอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้าที่จะมีที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 7,500 ไร่ ภายในสิ้นปี 2556 ซึ่งจะสามารถรองรับการขยายตัวของความต้องการด้านพื้นที่พร้อมให้เช่าได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความพร้อมของกลุ่มบริษัทไทคอนในการรองรับความต้องการของภาคอุตสาหกรรมที่มีแนวโน้มการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต” นายวีรพันธ์กล่าวสรุป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *